นพ.ศุภกิจ ศิริลักษณ์ อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แถลงข่าวการเฝ้าระวังสายพันธุ์โควิด-19 ว่า จากการเฝ้าระวังโควิดข้อมูลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย. 64- 18 มี.ค.65 พบว่า ขณะนี้เป็นสายพันธุ์โอมิครอน 99.95% หรือเกือบ 100% แล้ว พบเดลตาแค่ 1 ตัวอย่างเท่านั้น เท่ากับว่า โอกาสที่จะพบการกลายพันธุ์ หรือ ไวรัสพัฒนาเป็นเดลตาครอนแทบไม่มีแล้ว เนื่องจากไม่มีเชื้อเดลตาหลงเหลืออยู่ ข่าวศิลปิน
ขณะเดียวกันพบว่า สายพันธุ์ย่อยของโอมิครอน ที่พบในไทย สัดส่วนของ BA.2 เพิ่มมากขึ้น จากสัปดาห์ก่อน 18% เป็น 78.5% เรียกว่า เบียดสายพันธุ์ย่อยอื่นๆ โดย BA.2 มีความสามารถในการแพร่โรคเร็วกว่า BA.1 ถึง 1.4 เท่า
นพ.ศุภกิจ กล่าวว่า หากมองในรายละเอียดของผู้เสียชีวิตจะพบว่า เป็นการติดเชื้อสายพันธุ์ BA.2 ถึง 60.64% แต่ไม่ได้หมายความว่า เชื้อ BA.2 มีความรุนแรง หรือเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตเนื่องจากการป่วยและติดเชื้อในต้องใช้เวลานานกว่า 2 สัปดาห์ถึงจะมีอาการรุนแรง ส่วนสายพันธุ์ย่อยลงไปของ BA.2 ที่พบในต่างประเทศ ฮ่องกง BA.22 หรือ BA.23 ยังไม่มีรายงานเพิ่ม
ส่วนกรณีของเดลตาครอน ที่มีการติดตามของ GISAID นั้น พบว่า ในการรายงานผลที่ทั่วโลกที่การส่งข้อมูลไปให้ ยืนยัน กว่า 4,000-5,000 ตัวอย่างในจำนวนนี้ก็มีตัวอย่างของไทยที่ ส่งไปด้วยเช่นกัน 73 ตัวอย่าง ทาง GISAID ยืนยันให้เป็นเดลตาครอนจริงแค่ 64 ตัวอย่าง พบในฝรั่งเศส 50 ตัวอย่าง ส่วนที่เหลือกระจายในประเทศอื่นๆ โดยนิยามว่าเป็น เดลตาครอน คือ การผสมรวมกันออกลูกหลานกลายเป็นไฮบริด หรือ เกิดเป็นตัวใหม่ ทั้งนี้ ในส่วนของเดลตาครอนที่พบในไทยเป็นการพบเมื่อราวเดือนธันวาคม ไม่ใช่ตอนนี้เพราะขณะนี้ไม่หลงเหลือในไทยมากแล้ว และผู้ป่วยส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีอาการรุนแรง
No comments:
Post a Comment